ต่อกันนะครับ
สำหรับท่านที่อยากจะเวอร์มูทกินที่บ้าน หรืออยากลองก็ไม่ว่ากันครับ เพราะคนไทยไม่นิยมกันเท่าไหร่สำหรับ เหล้ายา ตามสัดส่วนข้างล่างครับ สำหรับไวน์ขาว สอง ลิตร แต่ถ้าอยากได้ โรเซ่ หรือ สวีทเวอร์มูทก็เติมไวน์แดง ปิโนต์นัวร์เข้าไปครับ
1 g Gentian Root ¼ g Thyme
1 g Oregano ¼ g Sage
¼ g Angelica Root ¼ g Rosemary
¼ g Chamomile flowers
2 g Vanilla Bean
3 g Bitter Orange Peel
¼ g Quinine
มารู้จักยี่ห้อหลักๆกันครับ
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Vermouth ของบริษัทนี้แน่ด้วยการตลาดที่ครองมานานหลายปีจนปัจจุบันได้จับมือกับ Bacardi เป็นเบอร์ 1ของบริษัทเหล้าที่ใหญ่ที่สุด เริ่มต้นจาก Alessandro Martini และ Luigi Rossi ไวน์เมคเกอร์ และ Teofilo Sola 3 คนได้เปิดบริษัทขึ้นเดิมมีชื่อว่า The Distilleria Nazionale di Spirito di Vino และเปลี่ยนชื่อมาเรื่อยๆเป็น Martini, Sola & CIA. และ Martini & Rossi ในปี 1879 จนถึงปัจจุบัน
โอว้แม่เจ้า .... ทำไมประวัติของท่านช่างยาวเหลือกระไร จะทำให้นั่งเเปลทั้งหมดไม่ไหวหรอกขอรับ
เอาเป็นถ้าท่านผู้ใดสนใจกัน อยากรู้กัน ก็ส่งข้อความมาบอกกันนะครับ มันก็น่าสนใจดีครับ แต่ติดที่เยอะไปหน่อย แฮะๆ (จริงๆในการทำงานก็หาได้ใช้มันไม่ เอ ........แต่ก็ไม่แน่บางโรงแรมก็เริ่มมาเจาะความรู้ด้านนี้สำหรับลูกค้าแล้ว อย่างที่ผมทำตอนนี้เป็นต้น อ่า)
มารู้จักตัวแรกกันดีกว่า
MARTINI ROSSO
มีสีที่เข็มแดงปนน้ำตาลให้กลิ่นสมุนไพรที่เข็มข้นรสหวานมักถูกเรียกกันไปต่างๆเช่น Red Vermouth, Sweet Vermouth,
Martini Rosso บ้างก็เรียกว่า Italian
Vermouth ด้วย นิยมดื่มกับน้ำแข็งหรือผสมกับน้ำแอปเปิ้ลเพื่อทำให้ดื่มง่ายขึ้น
สรรพคุณช่วยให้ระบบกระเพาะอาหารทำงานได้อย่างเป็นปรกติ ดีกรีอยู่ที่ 16 %
ส่วนค๊อกเทลดังๆที่นิยมใส่สวีทเวอร์มูทก็นี่เลย Manhattan ไม่ว่าจะเป็นคลาสสิค หรือ เฟอร์เฟค แมนฮัทตั้น เป็นชื่อหนังด้วยนะครับ Manhattan Cocktail กำกับโดย Dorothy Arzner เมือปี 1928 นู้น (ฮุๆ เราไม่เกิดเลย)
วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับมีภาระกิจโดยท่านผู้ว่าการบ้านระบุไว้ว่าต้องเสร็จกี่โมง :(
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น